วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ครั้งแรกของงาน....

 
หลังจากเรียนจบ.....
งานแรกที่เริ่มทำ มันอาจไม่ใช่สายงานที่เรียนมา
แต่มันคือ สิ่งท้าทาย และแรกเริ่มที่ฉัน "ชอบ"
กับการครีเอจ ในตำแหน่ง "ครีเอทีฟ"
ในสิ่งที่คิดและอยากทำด้วยตัวเอง
และการท้าทายกับการไร้ประสบการณ์
เริ่มจากการติดลบ0
จนหัดเรียนรู้และได้โอกาสที่ดีมาครอง
จากรายการที่คิดและอยากทำร่วมกับเพื่อนๆ
ที่มีช่องออนไลน์เป็นของพวกเราเอง "Whu Channel" 
ช่องทีวีออนไลน์ ที่ร่วมกันกับเพื่อนๆ โดยทุนของพ่อเพื่อน
ออกฉายทางโลกออนไลน์ จนประสบความสำเร็จ!!
yeah yeah!!
รายการจึงได้ออกฉายทางทีวี ทางช่องแมงโก้ทีวี
กับรายการแรก คือ After Skool รายการที่จะพาไปพบกับ กิจกรรม สุดคลูของเหล่าวัยรุ่น
ทั้ง เขียนสคริป หาเรื่องราว ติดต่อ พร้อมกับคุมถ่าย
เป็นชะนีถึกถึน 1 คนก็ไม่ปราณ








ยังมีอีกหลายตอน ลองเข้าไปดูในยูทูบ(อาจจะมีหลงเลยให้ได้ดูบ้าง)
เสริท เลย Whu Channel....:)
แต่..

ยังมีอีกรายการที่ทำ
รายการ LOOK CHIC รายการที่จะไม่ทำให้คุณตกเทรนด์แฟชั่นทีจริงก็ไม่ได้เก่งแฟชั่นหรือเข้าใจแฟชั่นมากเท่าไหร่?
แต่เพื่อสีสันของช่อง ออนไลน์
และ..ให้ครบ รสชาติ
แต่
ก็รู้่สึกดีที่ได้ทำ









แต่ก็.....ยังมีอีกนะ
แต่คราวนี้เป็น พิธีกร ฮ่าๆๆ ต๊าย ฉันก็เป็นได้เหมือนกันนะ
กับรายการ Follow me รายการที่จะพาไปตะลุยท่องเที่ยวไปไหนหลายๆที่
ที่สำคัญ...
ไม่เน้นหน้าตาพิธีกร..เน้นความ "ทำไปเหอะ"เพราะไม่ต้องใช้ความสวย
เป็นรายการของ เตี้ย ครีเอทีฟ ร่วมชะตา
ฉัน ชอบ ที่ได้สนุก
ฉัน ชอบ ที่ได้ทำทุเรศ
ฉัน ชอบ ที่ได้ปลดปล่อย
แต่ ฉัน ต้องไปทำหน้าให้สวยกว่านี้หน่อย...ฮ่าๆ



***ตอนนี้ไปโคราช สนุกสุดเว่อร์!! ฉันนี่แหละเหมาะกะท้องทุ่ง ฮ่าๆๆ :)




 สิ่งเหล่านี้...เป็นสิ่งแรก
แรก หลังเรียนจบ
แรก ของการทำงาน
แรก ของประสบการณ์
แรก ของอาชีพ "ครีเอทีฟ"
แรก ของการเจอผู้คน
แรก ของเงินเดือน

ถามว่า..?!%#
เหนื่อย....
ท้อ....
เบื่อ....
แต่สุดท้าย คือ ความสุขฟร่ะ!!

คิดซะว่า  คือการเริ่มต้น ของการทำงาน
การเริ่มต้น  ของชีวิต
การเริ่มต้น  การเรียนรู้
เหลือ....ทางอีกเยอะ
ยังไม่ถึงครึ่งชีวิตด้วยซ้ำ

แต่หลังจากนั้น  ความสนุกความสุข อยู่ได้มา ปีกว่า
REAL  & Whu Channel 
THE END
เราจึงแยกย้ายจร้า..:D

ทำให้ชีวิตครีเอทีฟ หยุดไปแปบนึง......

วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

การมีน้ำใจในสังคม^_^

การมีน้ำใจที่เกิดขึ้น :: ได้ไปเจอเรื่องบราวที่มีคนโพสตามinternet เกี่ยวกับการมีน้ำใจที่เกิดแก่ตัวเอง

ข้าพเจ้าเคยดูรายการ จุดเปลี่ยน ซึ่งตอนนั้นทางรายการเสนอ ว่าคนไทยเรา ความมีน้ำใจยังคงเหลืออยู่ไหม?? ซึ่งทางรายการได้ลองมีหน้าม้า ที่เป็นเด็ก คนชรา และคนท้องไปลอง ความมีน้ำใจในการลุกให้นั่งบนรถเมล์ ซึ่งบางคนก็ลุก บางคนก็นั่งเฉย ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าความมีน้ำใจยังคงอยู่ และวันหนึ่งข้าพเจ้าได้นั่งบนรถเมล์ แล้วมีหญิงชราคนหนึ่งหอบหิ้วของมาเต็ม และมีผู้ชายคนหนึ่งลุกให้นั่ง พร้อมกับอาสาจะถือของให้บางส่วน ข้าพเจ้าเลยนึกถึงรายการ และรู้ได้เลยว่าความมีน้ำใจยังไม่หายไปจากใจของคนไทยจริงด้วย อยากให้ทุกคนมีความน้ำใจให้กันและกัน



ขอบคุณเธอมากมาย..ที่ทำให้โลกนี้น่าอยู่
ตั้งแต่ผมป่วย เวลานั่งรถเมล์ผมไม่ค่อยได้ลุกขึ้นให้ใครนั่งบ่อยนัก
ยกเว้นวันที่ผมรู้สึกแข็งแรงดีแต่ในบรรดาผู้ที่ผมลุกให้นั่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและคนชราส่วนผู้หญิงที่ไม่ได้เป็นเด็กหรือคนชราผมลุกขึ้นให้น้อยมากเพราะผู้หญิงปกติแข็งแรงกว่าผมวันนั้นผมกลับจากงานสัปดาห์หนังสือ
ผมไปงานนี้โดยรถโดยสารประจำทางขากลับผมก็กลับด้วยวิธีเดียวกันรถแล่นผ่านหน้าห้างสรรพสินค้าผู้คนกรูกันขึ้นมาผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมายืนอยู่ตรงเบาะที่ผมนั่งผมชั่งใจอยู่พักหนึ่งคิดว่าจะลุกขึ้นยืนให้ผู้หญิงคนนั้นนั่งดีหรือไม่
วันนั้นผมรู้สึกแข็งแรงดีแต่ก็มีถึงหนังสือหนัก ๆ ติดตัวอยู่ถุงหนึ่งถ้าผมลุกขึ้นให้ผู้หญิงคนนั้นนั่ง
เธอจะปล่อยให้ผมถือถุงหนังสือหนัก ๆ นั้นหรือเธอจะช่วยผมถือ
แต่ถ้าวัดระยะทางอีกไม่ไกลนักก็จะถึงป้ายที่ผมลงถ้าต้องถือถุงหนังสือเอง...ก็คงถือไม่นาน
ผมจึงตัดสินใจลุกให้เธอนั่งเธอกล่าวขอบคุณผมและขอถุงหนังสือไปถือให้ผมกล่าวขอบคุณเธอ
ที่เธอทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น



เดี๋ยวนี้ รู้สึกตัวเองใจดำมากขึ้นนะคะเนี่ย ฮ่าๆๆ ไม่ค่อยได้ลุกเลย เคสที่จะลุกให้จริงๆ เฉพาะผู้หญิงมีครรภ์ คนแก่มากๆ และเด็กเล็กๆเท่านั้นเองค่ะ ผู้หญิงสาวน้อยสาวมากหน่อย วัยทำงาน ไม่คิดจะลุกให้ค่ะ แบบว่า ฉันก็เมื่อย แรงเราก็พอๆกัน เห็นแก่ตัวไปไหมคะ ถ้า เคสยืนๆอยู่แล้วได้ที่ว่าง ถ้าผู้หญิงรายล้อม วัยไล่ๆกัน มีเรียก็นั่งค่ะ นอกจากเห็นเค้าขึ้นมาก่อน เราก็ตามมารยาทค่ะ ให้เค้านั่งก่อน ตามคิว ฮ่าๆ
แต่ เคสที่มีเรียอึดอัดที่สุดคือ เราได้นั่ง แต่มีผู้หญิงวัยใกล้ักันหรืออ่อนกว่านิดหน่อยขึ้นมา ถือของที่หนักบ้างไม่หนักบ้าง ใจเราอยาจะช่วยเค้ายกใจจะขาด แต่แบบ กลัวเค้าจะแอบด่าในใจ ว่า ช่วยกรูถือ แล้วทำไม ไม่ให้กรูนั่ง ( เคยโดนเคสแบบนี้ค่ะ เลยขยาดไปเลย) จะมีคนด่ามีเรียไหมคะ ฮ่าๆ เมื่อก่อนบ้านใกล้ๆ ก็ยอมไม่นั่งได้ค่ะ เดี๋ยวนี้ ต้องอยู่บนรถเมล์ ไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง มากสุดก็ สอง ชั่วโมงต่อเที่ยว ให้ยืนคงไม่ไหวคะ
ขอเลวนะคะ ถ้าไม่หนักหนาจริงๆ



นี่ก็อีกเรื่องราวที่เจอข่าวเกี่ยวกับการทำความดีถวายพ่อหลวง เห็นว่ามีประโยชน์ เป็นข้อคิด ให้นำมาปฏิบัติ เพื่อสร้างสังคมดีตามแนวคิดว่า

"สังคมดี ไม่มีขาย อยากได้ต้องช่วยกันสร้าง ด้วยการปฏิบัติตนเป็นคนดี"

ข่าวจาก น.ส.พ.เดลินิวส์ วันเฉลิมพระชนม์พรรษา 80 พรรษา วันพุธ ที่ 5 ธันวาคม 2550

"ทำดีทุกลมหายใจถวายพ่อหลวง"

วาระสำคัญอันเป็นมหามงคลยิ่ง วันเฉลิมพระชนม พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา เป็นโอกาสดีที่คนไทยทั้งประเทศ ใช้เวลาตลอดปี 2550 ร่วมกิจกรรมถวายความจงรักภักดีในรูปแบบต่าง ๆ โดยสิ่งที่เหล่าพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทุกเพศวัย พร้อมใจปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง คือ

การมุ่งทำความดีถวายแด่พระองค์ท่าน ด้วยวิธีการต่าง ๆ ของแต่ละบุคคล อาทิ
ข้าราชการตั้งใจถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน
ประชาชนทั่วไปก็มีตั้งแต่การออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพดี
การตั้งใจเรียนของเด็ก ๆ
การชักชวนกันระวังป้องกันอุบัติเหตุ
จนถึงการอุทิศเวลา แรงกายเพื่อสาธารณประโยชน์
ซึ่งไม่ว่าจะกระทำแตกต่างอย่างไร แต่ที่สุดก็เป็นคุณความดีที่ตกแก่ส่วนรวม

การทำดีของทุกคนย่อมส่งผลในทางที่เป็นประโยชน์ แก่ตนและส่วนรวม ยิ่งมีจำนวนการทำความดีมากเท่าใด ผลสนองก็เป็นไปในทางดีเพิ่มพูนเป็นทวีคูณ อีกทั้งการที่คนหมู่มากสมัครสมานทำการแต่สิ่งดี ๆ กันอย่างกว้างขวาง ก็เป็นการสร้างสังคมที่มีวัฒนธรรมของการทำดีที่จะปกป้อง ขัดขวาง สิ่งไม่ดีมิให้รุกราน ล้ำแดนเข้ามาได้
ทำให้คนส่วนใหญ่คุ้นเคยต่อสิ่ง ดี ๆ จนไม่หลงทิศผิดทางไปสู่ทางอื่น ด้วยประการนี้รัฐและองค์กรหลักต่าง ๆ ของประเทศ จึงควรช่วยกันเสริมเติมภูมิคุ้มกันให้วัฒนธรรมความดีของสังคมมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตาม การทำความดีที่จะให้ได้ความดียิ่งขึ้น ไปควรดำเนินให้สอดคล้องกับกระแสพระราชดำรัส ที่ได้พระราชทาน คำชี้แนะ ซึ่งทันสมัยสอดรับกับความเป็นจริงในภาวะปัจจุบันอยู่เสมอ ดังพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2550 ว่า
สถานการณ์บ้านเมืองเราในทุกวันนี้เป็นที่ทราบแก่ใจของเราทุกคนที่สุดแล้วว่าไม่น่าไว้วางใจ พูดได้ว่าหากคนไทยขาดความสำนึกในชาติ ขาดความสามัคคีก็อาจจะประสบเคราะห์กรรมกันทั้งชาติ
จึงขอให้ทหารทุกคน และชาวไทยทุกคนทุกหมู่ ทุกเหล่า ได้พิจารณาตัดสินใจว่าประเทศชาติของเรานั้นสำคัญ ควรที่เราจะรักษาไว้ให้ยั่งยืนต่อไปหรือไม่
ถ้าเห็นว่าสำคัญ มั่นใจ ก็ขอให้สังวร ระวังกาย ใจ ให้ตั้งมั่นอยู่ในความสัตย์สุจริต พยายามลดอคติ และสร้างเสริมความเมตตาสามัคคีในกันและกัน ไม่ว่าจะทำการสิ่งใดให้ยึดเอาความมั่นคงปลอดภัยของชาติเป็นที่หมายสูงสุด

ความดีที่เรามุ่งจะทำเพื่อถวายแด่พระองค์ท่าน ซึ่ง กระทำมาอย่างต่อเนื่องอันจะก่อประโยชน์ทั้งแก่ตนและส่วนรวมได้ดีระดับหนึ่งแล้ว

จึงควรกระทำให้เกิดเป็นนิสัยหรือให้เป็นอยู่ในทุกลมหายใจ และแนวทางแห่งความดีนั้น ควรยึดเอาแนวทางที่ได้พระราชทานไว้เป็นหลัก ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก คือเพียงให้สังวร ระวังกายใจ ให้ตั้งมั่นอยู่ในความสุจริต พยายามลดอคติ และสร้างความสามัคคี ยึดความมั่นคงปลอดภัยของชาติเป็นที่สูงสุด.

วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

การทำดีในสังคม.........>>แอบ*

ที่มา :: สนใจในเรื่องของพวกคลิปและเรื่องการแอบถ่ายที่เกิดขึ้นในสังคมซึ่งในสมัยนี้เป็นที่นิยมกันมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสร้างสรรค์สังคมและไม่มีประโยชน์มากนัก ซึ่งเมื่อขึ้นชื่อว่า"แอบ"นั้นก็ย่อมเป็นพฤติกรรมที่ส่อไปในทางที่ไม่ดีอย่างแน่นอน แล้วยิ่งนำไปเผยแพร่สู่สังคมยิ่งเข้าถึงผู้คนได้อย่างรวดเร็วแน่นอนโดยผ่านทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย จึง!! คิดในทางกลับกันว่าถ้าเราแอบถ่ายในเรื่องที่ดีๆที่เกิดขึ้นในสังคม ในเรื่องของคนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการมีน้ำใจ ,การทำความดีเล็กๆน้อยๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมแล้วคนเรานั้นไม่ค่อยจะสนใจหรือมองข้ามนำไปเผยแพร่สู่สังคมในรูปแบบเดียวกันนั้น คนเราในสังคมอาจจะเกิดการทำความดีและเกิดการกระตุ้นให้ผู้แอบถ่ายทั้งหลายในสิ่งที่สรา้งสรรค์สังคมแล้วนำมาเผยแพร่สู่สังคม

วัตถุประสงค์ :: อยากจะนำเสนอมุมมองและทัศนคติที่ดีในอีกแง่หนึ่งของการแอบถ่ายเพื่อเกิดการส่งผลที่ดีต่อสังคม และไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถที่จะทำความดีได้ทั้งนั้น ถึงแม้จะมีคนเห็นหรือไม่เห็นก็ตาม



























:: การทำความดีเหล่านี้อาจะเป็นแค่การกระทำที่เล็กน้อยและบางที่คนเราอาจมองข้ามไปที่จะมีน้ำใจให้กันในสังคม คุณไม่ต้องกลัวว่าเมื่อคุณทำดีแล้วนั้นไม่มีใครมองเห็น บางทีมันอาจจะมีคนที่มองเห็นคุณอยู่ก็ได้